ความลับของ “ลาเวนเดอร์” ดอกไม้สายมู

Share

 

เริ่มต้นศักราชใหม่ ปี “งู” สัญลักษณ์ของอำนาจ โชคลาภ และการเปลี่ยนแปลง ตั้งใจหยิบเรื่องราวของดอกไม้มาฝาก ให้ทั้งความสุขสดชื่น ต้อนรับสิ่งใหม่ๆ สิ่งดีๆ ที่กำลังจะเข้ามา

…แน่นอนว่า ดอกไม้นั้นต้องไม่ธรรมดา

ดอกไม้ระดับ เอ-ลิสต์ ที่กุมพื้นที่ในใจคนไทยมาโดยตลอด เป็นท็อป 10 ของดอกไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างที่สุดในการสกัดกลิ่นเป็นน้ำมันหอมระเหย โดยเฉพาะในร้านสปา โรงแรม หรือสถานให้บริการด้านอโรมาเธอราพี ที่เพียงแค่ได้กลิ่นก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกเบาสบาย ผ่อนคลาย จิตใจปรับเข้าสู่โหมดของการรีแล็กซ์อย่างแท้จริง

ยิ่งในช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนท่องเที่ยว จะเห็นหลายๆ พื้นที่สะพรั่งไปด้วยทุ่งไม้ดอกหลากสีเป็นจุดแวะพัก จุดเช็คอินให้เก็บภาพความประทับใจ หนึ่งในนั้นต้องมีทุ่งดอกไม้สีม่วง “ลาเวนเดอร์” ดอกไม้ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความฝันล่องลอยที่ไม่มีอยู่จริง!?!

ดรามาโลกสวย วิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์

น่าสนใจว่า ความโลกสวยที่ถูกหยิบเอามาสวมความหมายในทุ่งลาเวนเดอร์นั้นมาไกลมาก ถ้าย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ความเป็นมาของ “ลาเวนเดอร์” จะพบว่า โลกสวยที่ว่าน่าจะเป็นสวยสายดุเสียมากกว่า กล่าวกันว่า ลาเวนเดอร์เป็นที่รู้จักตั้งแต่ 3,000 ปีก่อน มีต้นกำเนิดอยู่แถวเขตเมดิเตอร์เรเนียน ตะวันออกกลาง และอินเดีย ในสมัยกรีกโบราณยังใช้เป็นสมุนไพรหลักในการทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ คำว่า “Lavender” มาจากภาษาละตินว่า “lavare” แปลว่า “ล้าง” สันนิษฐานว่ามาจากการที่ชาวโรมันใช้ลาเวนเดอร์เพื่อให้กลิ่นหอมในโรงอาบน้ำ เสื้อผ้า แม้กระทั่งชำระล้างเส้นผม เช่นเดียวกับทางบาบิโลเนียนที่ใช้ตากแห้งเป็นเครื่องหอมน้ำอบในพิธีกรรมต่างๆ ราวต้นคริสตกาล

ทำไมลาเวนเดอร์ต้องโลกสวย?

ต้องยอมรับว่าเสน่ห์ที่โดดเด่นของลาเวนเดอร์อยู่ที่ “กลิ่น” ที่หอมยั่วยวนชวนให้หลงใหล ว่ากันว่านี่คือหนึ่งในเคล็ดลับความงามที่แม้แต่จูเลียส ซีซาร์ และมาร์ค แอนโทนี ยังยอมสยบแทบเท้าของพระนางคลีโอพัตรา ทั้งนี้ อ้างอิงจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์จะพบว่า มีสารสำคัญในลาเวนเดอร์ ได้แก่ สาร Linalool, Linalyl acetate, Lavandulol และ Lavandulyl acetate โดยเฉพาะสาร Linalool เป็นสารที่ทำให้ลาเวนเดอร์มีกลิ่นหอม มีฤทธิ์ช่วยทำให้รู้สึกสงบและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ปรับสมดุลทางอารมณ์ ช่วยลดอาการปวดศีรษะ ทำให้นอนหลับได้สนิทมากขึ้นยังไม่นับฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ รักษาบาดแผลผิวหนังที่ระคายเคือง แผลพุพอง รวมถึงช่วยรักษาสิวเพราะมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยไล่ยุง และแมลงต่างๆ บรรเทาอาการคันและผื่นแดง จากการถูกแมลงสัตว์กัดต่อยอีกด้วย

มากกว่าอโรมาบำบัดคือ ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย

ไม่เพียงความทรงพลังของลาเวนเดอร์ในแง่อโรมาเธอราพี ช่วยให้ผ่อนคลายทางด้านอารมณ์และจิตใจแล้ว ทางด้านการบำบัดรักษาโรคทางกายยังมีการใช้กันมานาน นับแต่สมัยโรมันที่บรรดาเหล่าทหารใช้รักษาบาดแผลเมื่อบาดเจ็บในสนามรบ อีกทั้งยังพบจากบันทึกกล่าวถึง ควีนอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ (ค.ศ.1558-1603) ว่านอกจากโปรดใช้ลาเวนเดอร์เป็นเครื่องหอมส่วนพระองค์ ยังใช้ชงเป็นชารักษาอาการไมเกรน

ช่วงกลาง ค.ศ.1630 ฝรั่งเศสเกิดการระบาดใหญ่ของกาฬโรค แต่สามารถรอดพ้นจากภัยนี้ได้ก็เพราะลาเวนเดอร์ โดยได้ข้อสังเกตมาจากการค้นพบว่ากลุ่มโจรที่เข้าไปขโมยทรัพย์สินในสุสานกลับไม่พบการติดเชื้อแม้แต่คนเดียว เมื่อจับตัวมาคาดคั้นจึงพบสูตรลับสมุนไพรป้องกันที่สำคัญคือ การใช้ส่วนผสมของลาเวนเดอร์ ตลอดจนเชื่อว่าดอกไม้ชนิดนี้ช่วยป้องกันปีศาจได้โดยจะแขวนไว้ที่ประตู ลาเวนเดอร์ยังถูกใช้เพื่อการสาธารณสุขเรื่อยมา เช่น ในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ซึ่งไม่เพียงโปรดกลิ่นลาเวนเดอร์ ยังทรงให้สร้างโรงพยาบาลทหารผ่านศึก โดยเพิ่มการรักษาแบบใหม่ที่ใช้ลาเวนเดอร์อีกด้วย

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเส้นทางของลาเวนเดอร์ที่ใช้ในการบำบัดเยียวยาทางกายและจิตใจ อย่างที่ลอนดอนก็มีการกล่าวถึงชาวยิปซีที่เดินเร่ขายช่อดอกลาเวนเดอร์ โดยมีจุดขายที่การเป็นเครื่องรางป้องกันความเจ็บป่วยและโรคร้าย เป็นต้น นับเป็นสุดยอดของดอกไม้ที่มากสีสัน ทั้งทางลับและทางแจ้ง ทั้งสายวิชาการทางการแพทย์แผนโบราณ แผนปัจจุบัน และการแพทย์เชิงบูรณาการ จากในหน้าประวัติศาสตร์โลกยืนระยะอยู่แถวหน้าในบรรดาไม้ดอกจนทุกวันนี้…ขอปรบมือให้กับ “ลาเวนเดอร์”

สำหรับผู้ที่ชื่อชอบงานเขียนของ Rabbit2TheMoon สามารถอ่านเรื่องอื่นๆ ก่อนหน้าได้ ที่นี่
rabbit2themoon

rabbit2themoon

คอลัมนิสต์หน้าไม่ใหม่ เคยพำนักอยู่ใต้ชายคามติชน ประจำกอง บก.นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ก่อนขยับมาเป็นผู้สื่อข่าวเซ็กชั่นประชาชื่น เขียนสัมภาษณ์บุคคล-สกู๊ปเชิงไลฟ์สไตล์-ท่องเที่ยว-อาหาร-จิปาถะ สถานะปัจจุบัน นอกจากเป็นคอลัมนิสต์ ยังเป็นนักเขียนอิสระ เขียนบทความเชิงประชาสัมพันธ์

Related Articles