เอไอป้องกันภัยจราจร ไทยมีง่ายหากอยากทำ

Share

 

มีข่าวจาก BBC ระบุว่า จะมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ทั่วเวสต์มิดแลนด์สเพื่อพยายามลดจำนวนผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสบนท้องถนน โดยใช้เซ็นเซอร์ AI ใน 40 สถานที่เพื่อบันทึกเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุและค้นหาว่าควรใช้มาตรการความปลอดภัยที่ใด

ถ้าเป็นประเทศไทย นอกจากการเกิดอุบัติเหตุกับคนเดินถนนปกติแล้ว อุบัติเหตุรถยนต์ต่อรถยนต์ก็เป็นข้อมูลที่น่าสนใจเช่นกัน สายงานวิศวกรรมจราจรในประเทศไทยนั้นมีการพัฒนามาโดยตลอด แต่ยังคงไม่ได้นำระบบเอไอมาใช้เหมือนที่อังกฤษแน่ 

ความจริงก่อนที่มีระบบเอไอที่ดีการเก็บข้อมูลก็เป็นสิ่งจำเป็น ถามว่าบ้านเรามีข้อมูลประเภทนี้อยู่หรือไม่ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมีข้อมูลอุบัติเหตุบนท้องถนน ทั้งรูปแบบอุบัติเหตุ สาเหตุการเกิด ความรุนแรงที่เกิดขึ้น และอื่นๆ เรื่องนี้ยังไม่เห็นหน่วยงานใดประมวลผลออกมาเป็นเรื่องเป็นราว แต่ถ้าเป็นเอกชนกลับมี นั่นคือข้อมูลจากบริษัทประกันภัย

ยานพาหนะส่วนใหญ่ในบ้านเรา โดยเฉพาะในกทม.นั้น มักจะมีประกัน น้อยที่สุดคือประกันชั้นสาม และประกันบุคคลที่สาม ที่บังคับให้ยานพาหนะทุกชนิดต้องมี และเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็จะมีการบันทึกเหตุการณ์ทุกเหตุลงสู่ระบบดิจิทัล

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ามีบริษัทประกันกลุ่มใหญ่ที่จ้างมอเตอร์ไซค์คอยวิ่งเคลมประกันร่วมกัน เรียกง่ายๆ ว่าจ้างเอาท์ซอร์สทำงานให้ ตั้งแต่ระบบคอลเซ็นเตอร์ ชนปุ๊ปมาปั๊ป เด็กเคลมพวกนี้อยู่กันไม่กี่แห่ง เพราะมีบริษัทเอาท์ซอร์สใหญ่ๆ อยู่ไม่กี่แห่ง

เคยไปเยี่ยมเซิร์ฟเวอร์พร้อมกับขอดูข้อมูล ก็พบว่า บริษัทพวกนี้นั่งมอนิเตอร์อุบัติเหตุทุกชนิดทั่วประเทศ พวกเขาบอกได้ว่าถนนเส้นใด จุดไหน มักเกิดอุบัติเหตุ เวลาเกิด และสาเหตุ มีแม้กระทั่งข้อมูลว่า รถยนต์ยี่ห้อไหนเกิดอุบัติเหตุสูงสุด รถใหม่หรือรถเก่า ปีไหน รุ่นอะไรที่มักเกิดอุบัติเหตุ คนขับเป็นผู้หญิงผู้ชาย อายุเท่าไหร่ ข้อมูลเหล่านี้ถูกเก็บเอาไว้หลายปีแล้ว แค่มันไม่ได้ถูกเปิดเผยออกสู่สาธารณะเท่านั้น

หากข้อมูลพวกนี้ถูกใส่ใจโดยหน่วยงานรัฐ นำมาต่อยอดมาพัฒนาโดยระบบเอไออีกต่อหนึ่ง เราจะได้ความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มมากขึ้น เราอาจจะได้เอไอคอยแจ้งเตือนด้วยเสียงเพื่อให้คนขับรถได้รู้ว่า อีก 300 เมตรมีทางม้าลายอยู่ข้างหน้า และเป็นทางม้าลายที่คนนิยมใช้ มีการเกิดอุบัติเหตุบ่อย อยู่ข้างหน้า ต้องระวังแต่เนิ่นๆ ป้องกันการแก้ตัวว่าไม่ชินทางกันอีกต่อไป เรื่องพวกนี้อาจจะคุ้มเกินกว่าที่เราคิดก็ได้

 

Related Articles