ลอรีอัล จัดการแข่งขันนวัตกรรมความงาม Big Bang Beauty Tech Innovation Program 2025 ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ (SAPMENA) ซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดยเหล่าสตาร์ทอัพจะแข่งขันกันเพื่อคว้าโอกาสสำคัญในการร่วมงานกับลอรีอัล ในโครงการนำร่องเชิงพาณิชย์กับหนึ่งใน 37 แบรนด์ระดับโลกในเครือ และโอกาสเข้าถึงตลาด 35 ประเทศทั่วภูมิภาค SAPMENA พร้อมเข้าร่วมโปรแกรมพี่เลี้ยงตลอดหนึ่งปีกับผู้บริหารระดับสูงจากลอรีอัลและพันธมิตรของโครงการ
สำหรับปีนี้ การแข่งขันนวัตกรรมแบบเปิดด้าน Beauty Tech ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ได้ขยายขอบเขตครอบคลุมไปยังประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ด้วย โดยเหล่าสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมการแข่งขันต้องนำเสนอนวัตกรรมใหม่เพื่อรับมือกับความท้าทายสำคัญในอุตสาหกรรมความงามภายใต้หนึ่งในห้าหัวข้อที่กำหนด รวมถึงวิทยาศาสตร์เพื่อความงาม (Science for Beauty) ซึ่งเป็นหัวข้อใหม่ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปีนี้ เพิ่มเติมจากหัวข้อเดิมอย่างประสบการณ์ของผู้บริโภค (Consumer Experience), เนื้อหาและสื่อ (Content & Media), พาณิชยกรรมรูปแบบใหม่ (New Commerce) และเทคโนโลยีเพื่อสังคม (Tech for Good)
วิสเมย์ ชาร์มา ประธานของลอรีอัล กรุ๊ป ภูมิภาค SAPMENA กล่าวว่า “ด้วยระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่มีพลวัตสูงและผู้บริโภคที่เชี่ยวชาญการใช้เทคโนโลยี เราจึงมั่นใจว่าภูมิภาค SAPMENA มีศักยภาพมหาศาลในการเป็นกำลังขับเคลื่อนนวัตกรรมความงาม โดยโครงการ Big Bang Beauty Tech Innovation Program เปิดโอกาสให้เราได้ค้นหา สนับสนุน และบ่มเพาะผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมรุ่นใหม่ในอุตสาหกรรมความงาม การร่วมมือกับเหล่าสตาร์ทอัพที่มีอนาคตสดใสเพื่อร่วมกันสร้างสรรค์และพัฒนาโซลูชันทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีความงาม จะทำให้เราสามารถเร่งขับเคลื่อนนวัตกรรมและยกระดับประสบการณ์ความงามของผู้บริโภคในภูมิภาค SAPMENA”
นายแพทริค จีโร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย เมียนมา ลาว และกัมพูชา กล่าวว่า “ลอรีอัล กรุ๊ป ในประเทศไทย มีบทบาทสำคัญในการบุกเบิกเรื่องบิวตี้และนวัตกรรมความงาม ผู้บริโภคไทยถือว่ามีความรอบรู้เรื่องเทคโนโลยีสูงสุดประเทศหนึ่ง ในภูมิภาค ความหิวกระหายในโซลูชั่นใหม่ๆ ที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีเพื่อเติมเต็มประการณ์การบริโภคของพวกเขา สร้างโอกาสใหม่ๆ สำหรับวงการสตาร์ทอัพและเทคโนโลยีของไทยที่มีการแข่งขันสูง โครงการ Big Bang Beauty Tech Innovation ของลอรีอัล เป็น แพล็ตฟอร์มสำคัญสำหรับเหล่าสตาร์ทอัพและผู้มีความใฝ่ฝันทำงานด้านเทคโนโลยี ในการก้าวเข้าสู่ตลาดความงามที่มีความคึกคัก และความท้าทายในด้านความต้องการของผู้บริโภค ผมตื่นเต้นที่จะได้เห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่สตาร์ทอัพเหล่านี้จะสร้างขึ้น เพื่ออนาคตของลอรีอัล”
ภูมิภาค SAPMENA ซึ่งประกอบไปด้วย เอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ มีประชากรคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 40% ของประชากรโลก ประกอบด้วยฐานผู้บริโภคที่คึกคักและเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงมอบโอกาสมากมายให้กับบรรดาสตาร์ทอัพ โดยผู้บริโภคหนุ่มสาวยุคดิจิทัลในภูมิภาคนี้กว่า 60% ซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำทุกสัปดาห์ และเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมความงาม ขณะที่ระบบนิเวศสตาร์ทอัพของ SAPMENA ก็ยังเติบโตคึกคัก โดยมีสตาร์ทอัพมากกว่า 625,200 ราย และมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นมากกว่า 245 บริษัท นับเป็นหนึ่งในตลาดที่มีพลวัตสูงสุดในด้านนวัตกรรมความงาม
ลอรีอัลมุ่งมั่นส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ Fast Company ได้ยกย่องให้ลอรีอัลติดอันดับ 50 สุดยอดสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดสำหรับผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมประจำปี 2567 (Top 50 2024 Best Workplaces for Innovators) และเป็นผู้ชนะในหมวดความงามและแฟชั่น เพื่อเป็นการยกย่องความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมในทุกระดับ
เกี่ยวกับโครงการ Big Bang Beauty Tech Innovation Program ในภูมิภาค SAPMENA
โครงการ Big Bang Beauty Tech Innovation Program เป็นการแข่งขันนวัตกรรมแบบเปิดด้าน Beauty Tech ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ซึ่งมุ่งค้นหา สนับสนุน และบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตอนใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ (SAPMENA) โดยการแข่งขันนี้เปิดรับสตาร์ทอัพจากนานาประเทศ ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และล่าสุดยังครอบคลุมไปถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ด้วย
เหล่าสตาร์ทอัพจะได้รับโอกาสในการพัฒนาโครงการนำร่องด้านนวัตกรรม Beauty Tech เพื่อรับมือกับความท้าทายที่สำคัญในอุตสาหกรรมความงาม โดยมุ่งเน้นไปที่หนึ่งในห้าหัวข้อที่กำหนด ได้แก่ ประสบการณ์ของผู้บริโภค เนื้อหาและสื่อ พาณิชยกรรมรูปแบบใหม่ เทคโนโลยีเพื่อสังคม และวิทยาศาสตร์เพื่อความงาม ทีมที่ผ่านการคัดเลือกจากการแข่งขันรอบรองชนะเลิศระดับภูมิภาค จะเข้ามาแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ SAPMENA Grand Finale ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 โดยผู้เข้ารอบสุดท้ายสูงสุด 10 ทีมจะแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งชนะเลิศ สำหรับคณะกรรมการตัดสินจะประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงจากลอรีอัลและพันธมิตรของโครงการ
ผู้ชนะสามอันดับแรกในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศโซน SAPMENA จะได้รับโอกาสพัฒนาโครงการนำร่องเชิงพาณิชย์โดยได้รับทุนสนับสนุนจากลอรีอัล และเข้าร่วมโปรแกรมพี่เลี้ยงกับผู้บริหารระดับสูงจากลอรีอัลและพันธมิตรของโครงการเป็นเวลาหนึ่งปี โดยในปี 2567 พันธมิตรของโครงการประกอบด้วย เอคเซนเชอร์ กูเกิล และเมตา
สตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จในโครงการนำร่องในภูมิภาค SAPMENA อาจมีโอกาสร่วมงานกับลอรีอัลในระดับโลก โดยมีลอรีอัลโซน SAPMENA เป็นจุดเริ่มต้น ช่วยให้สตาร์ทอัพสามารถเข้าถึงเครือข่ายพันธมิตรที่กว้างขวางและข้อมูลเชิงลึกของตลาด
หัวข้อการส่งผลงาน:
- ประสบการณ์ของผู้บริโภค (Consumer Experience)
- เนื้อหาและสื่อ (Content & Media)
- พาณิชยกรรมรูปแบบใหม่ (New Commerce)
- เทคโนโลยีเพื่อสังคม (Tech for Good)
- วิทยาศาสตร์เพื่อความงาม (Science for Beauty)
กำหนดการสำคัญ:
- กำหนดส่งผลงาน: 30 พฤษภาคม 2568
- รอบรองชนะเลิศระดับภูมิภาค (ออนไลน์): สิงหาคม/กันยายน 2568
- ตะวันออกกลาง
- อินเดีย
- เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
- รอบชิงชนะเลิศ SAPMENA Grand Finale ที่สิงคโปร์ (เดินทางมาร่วมการแข่งขันด้วยตนเอง): 5 พฤศจิกายน 2568