หลักทรัพย์บัวหลวง จัดพอร์ตลงทุนใหม่ เพิ่มน้ำหนัก “หุ้นเทคจีน” รับกระแส Deepseek R1 เขย่าโลก AI

Share

 

หลักทรัพย์บัวหลวง เกาะติดกระแส AI มาแรง จัดพอร์ตลงทุนใหม่ ปรับเพิ่มน้ำหนัก “หุ้นเทคจีน” รับกระแสโมเดล “DeepSeek R1” AI ประสิทธิภาพสูงต้นทุนต่ำจากสตาร์ทอัพสัญชาติจีน ทีม Wealth Research แนะกระจายการลงทุนในหุ้นเทคจีน ผ่าน 3 ทางเลือก ระบบบริหารกองทุนรวมอัตโนมัติ, DR “CNTECH01” อ้างอิง ChinaAMC Hang Seng TECH Index ETF ที่ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีจีนขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง และ DCA ใน DR “CNTECH01” เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างมั่นคงในระยะยาว

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทีม Wealth Research มีมุมมองเชิงบวกต่อ “หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของจีน” ที่เริ่มกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง หลังมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ โดยเฉพาะกระแส AI ที่ได้รับแรงกระตุ้นจากการเปิดตัวโมเดล “DeepSeek R1” ของสตาร์ทอัพสัญชาติจีน ที่ใช้ต้นทุนการดำเนินงานต่ำแต่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีของสหรัฐ นอกจากนั้นยังได้รับแรงหนุนจากการที่ทางรัฐบาลจีนมีการผ่อนคลายการควบคุมการทำธุรกิจของบริษัทเทคโนโลยีในจีน ส่งผลให้การใช้งาน AI ในจีนมีการขยายตัวอย่างกว้างขวาง ขณะเดียวกันยังช่วยเสริม Sentiment เชิงบวก และอาจกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นจีนให้คึกคักขึ้น

จากกระแส AI จีนที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้สะท้อนถึงโอกาสการเติบโตที่ดีในอนาคต ล่าสุดทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมืออาชีพมากประสบการณ์จากทีม Wealth Research ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน “หุ้นเทคโนโลยีจีน” เข้าไปในพอร์ตการลงทุน เน้นหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่เป็นหลัก เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะสั้น อย่างไรก็ดีแม้ผลตอบแทนหุ้นเทคโนโลยีจีนจะยังตามหลังหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ โดยตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน หุ้นเทคจีนให้ผลตอบแทน -25% ขณะที่หุ้นเทคสหรัฐฯ ปรับขึ้น +33% แต่หากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานหุ้น
เทคจีนยังมีโอกาสลดช่องว่างของผลตอบแทน เนื่องจากดัชนี FTSE China Technology คาดว่ากำไรจะเติบโตในปี 2568 ใกล้เคียงกับดัชนี Nasdaq 100 แต่ราคาหุ้นยังมีส่วนลดสูง โดย Forward P/E ของหุ้นเทคจีนอยู่ที่ 18.7 เท่า เทียบกับ 27.4 เท่า ของหุ้นเทคสหรัฐฯ ซึ่งต่ำกว่าถึง 32%

“นับตั้งแต่ปี 2564 ที่รัฐบาลจีนดำเนินนโยบาย Common Prosperity ซึ่งมุ่งกระจายความมั่งคั่งและควบคุมอิทธิพลของบริษัทขนาดใหญ่ ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต้องเผชิญกับมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวด ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามท่าทีของทางการจีนในช่วงหลังเริ่มผ่อนปรนลง ไม่ว่าจะเป็นการลดข้อจำกัดด้านข้อมูลข้ามพรมแดน หรือการสนับสนุนเงินทุนแก่ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก นโยบายเหล่านี้ช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุนที่เอื้ออำนวยขึ้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดกระแสเงินลงทุนกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง”
นายชัยพร กล่าว

จากกระแส AI DeepSeek ทีม Wealth Research แนะนำผู้ลงทุนกระจายการลงทุนในหุ้นเทคจีน โดยสามารถเลือกลงทุนได้ 3 รูปแบบ ประกอบด้วย 1. การจัดพอร์ตกองทุนรวมแบบอัตโนมัติ  (Auto Top Funds Portfolio) ที่ใช้หลักการกระจายสินทรัพย์ (Asset Allocation) ในรูปแบบ Private Fund โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนคอยกำหนดมุมมองและสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยง พร้อมคัดเลือกกองทุนตัวท็อปที่มีผลงานเด่นกว่า 2,000 กองทุน จาก 17 บลจ. ชั้นนำ และดูแลปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับภาวะตลาดโดยอัตโนมัติ ล่าสุดได้ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นจีน ในโมเดลพอร์ตเสี่ยงสูง (AAA) พอร์ตเสี่ยงปานกลาง (MAA) พอร์ตเสี่ยงปานกลาง-สูง เน้นเงินปันผล (DAA) และพอร์ตเสี่ยงต่ำ (CAA) ตามสัดส่วนและมุมมองการลงทุนจากทางทีม Wealth Research โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2568 Auto Top Funds Portfolio ยังคงรักษาความผันผวนของพอร์ต (SD) ให้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม ทำให้พอร์ตมีความคุ้มค่าอย่างชัดเจนในแง่ของผลตอบแทนต่อความเสี่ยง สำหรับผู้ที่สนใจบริการ Auto Top Funds Portfolio เริ่มต้นลงทุน 500,000 บาท พร้อมรับรายงาน Auto Top Funds Portfolio ประจำเดือน สามารถสมัครได้ผ่านแอป Wealth CONNEX

2.การลงทุนหุ้นเทคจีนง่าย ๆ ผ่านตลาดหุ้นไทย ด้วย DR “CNTECH01” ที่มีหลักทรัพย์อ้างอิง คือ ChinaAMC Hang Seng TECH Index ETF (3088) ที่ลงทุนอ้างอิงดัชนี Hang Seng TECH ที่รวบรวมหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำของจีน 30 บริษัท ซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับสากล และจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง เช่น Alibaba, Tencent, Meituan และ Xiaomi โดยบริษัทเหล่านี้มีน้ำหนักในดัชนีมากกว่า 30% ปัจจุบันหุ้นเทคจีนเริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น จากกระแส AI DeepSeek ขณะที่ในแง่ของมูลค่าหุ้นเทคจีนก็ยังน่าสนใจ สะท้อนผ่านดัชนี Hang Seng TECH ที่มี Forward P/E 12 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 16.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 24.5 เท่า ราว 1 s.d.

3.ทยอยลงทุนเป็นงวด ๆ ในจำนวนเงินที่เท่ากันทุกเดือน ผ่านการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน Dollar-Cost Averaging (DCA) โดยไม่คำนึงถึงราคาของหลักทรัพย์ในเวลานั้น ๆ ใน DR “CNTECH01” เริ่มต้นเดือนละ 5,000 บาท โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2568 ผลตอบแทนของการ DCA ใน DR “CNTECH01” สามารถทำผลงานออกมาโดดเด่น 7.21% ซึ่งให้ผลตอบแทนชนะหุ้นไทยที่ติดลบ 8.29 % (ตัวเลข ณ วันที่ 13 ก.พ. 2568) ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจในช่วงตลาดหุ้นผันผวน 

 

Related Articles