ไทยส่งเสริมการลงทุนเอไอดาต้าเซ็นเตอร์เต็มตัว คนไทยจะต้องเจออะไร

Share

 

ช่วงต้นปีที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ได้เปิดเผยตัวเลขที่บริษัทเอกชนทั้งในและต่างประเทศได้ยื่นข้อเสนอการลงทุนในประเทศไทยมาให้ทาง BOI พิจารณาส่งเสริม ลดหย่อนภาษีในรูปแบบต่างๆ ปรากฎว่าปีนี้ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์กว่า 130 โครงการ โดยเฉพาะพวกคลาวด์และเอไอ

อาจมีคำถามว่าธุรกิจประเภทนี้มันไม่ใช่ธุรกิจ labor intensive หรือคือพวกใช้แรงงานขับเคลื่อน เพราะสุดท้ายเมื่อเซ็ตอัพเสร็จสิ้นแล้ว โครงการเหล่านี้แทบจะไม่ใช้คนเลย แต่การใช้ระบบเทคโนโลยีพวกนี้กลับใช้เม็ดเงินมหาศาล และใช้ทรัพยากรในประเทศให้สูงขึ้นอย่างพรวดพราด

ตัวอย่างเช่น เอไอดาต้าเซ็นเตอร์ เล็กๆ แห่งหนึ่ง จะใช้พลังงานไฟฟ้าเทียบเท่ากับดาต้าเซ็นเตอร์ปกติ 7-8 เท่า หรืออาจจะใช้ไฟฟ้าเท่ากับจังหวัดเล็กๆ ใช่แล้วไทยนั้นมี 70 กว่าจังหวัด ถ้ามีเอไอดาต้าเซ็นเตอร์เกิดขึ้น 100 กว่าแห่งในเมืองไทยจริง เท่ากับการใช้ไฟฟ้าของทั้งประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า การสำรองไฟทั้งประเทศจะต้องเพิ่มมากกว่าสองเท่าตามไปด้วย ส่งผลให้ต้นทุนของไฟฟ้าจะสูงมากขึ้น ผลที่ตามมาคือ ราคาค่าไฟในประเทศจะถีบตัวอย่างช่วยไม่ได้

ด้วยเหตุผลง่ายๆ อย่างนี้ การที่ประเทศไทยมีเอไอดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมาก เท่ากับประชาชนไทยจะได้ใช้ค่าไฟตามไปด้วยนั่นเอง หากรัฐบาลไม่ได้วางแผนรับมือเอาไว้ก่อนจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติที่ตามมา

BOI สนับสนุนการลงทุนได้ แต่ต้องไปไล่บี้ให้นักลงทุนทั้งหลาย ต้องลงทุนเพิ่มทางด้านการประหยัดไฟ และนำระบบจ่ายไฟที่ชาญฉลาดที่สุด พ่วงเข้าไปในเงื่อนไขการส่งเสริมด้วย ไม่งั้นแค่เม็ดเงินลงทุนจำนวนมากจะไม่ตอบโจทย์ประเทศ ความปั่นป่วนจากการลงทุนจะทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้างเลยทีเดียว

นอกจากนั้น เอไอดาต้าเซ็นเตอร์ ต้องการแรงงานชั้นสูงตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เน็ตเวิร์ค ระบบรักษาความปลอดภัย ฯลฯ อย่างระบบฮาร์ดแวร์ก็ต้องดูว่า แต่ละดาต้าเซ็นเตอร์นั้นจะไปสายไหน ซึ่งตอนนี้ก็มีสองสายใหญ่คือ มาสายอเมริกา ที่มีเอ็นวีเดีย เป็นแกนหลัก โดยมีระบบเซิร์ฟเวอร์ของแบรนด์ใหญ่ระดับโลก ที่ออกแบบสนับสนุนเทคโนโลยีของเอ็นวีเดียให้ทำงานราบรื่น ไม่ล่ม ไม่ร้อน ดังนั้นต้องการคนที่เข้ามาดูแลแบรนด์ใหญ่เป็น ซึ่งตอนนี้ไทยมีคนรู้เรื่องนี้ไม่มาก ขณะนี้ยังต้องอิมพอร์ตคนมาจากสิงคโปร์เป็นหลัก

อีกสายหนึ่งเอไอจากจีน สายนี้ถูกกีดกันจากเทคโนโลยีหลัก ก็เน้นฉีกแนวใช้ของถูก ทำงานพอได้ แต่ไม่เป๊ะ แผลที่เกิดขึ้นยังเหวอะหวะ การที่จะเสถียรหรือไม่นั้นขึ้นกับเวลา แต่ระบบนี้มีพลังชีวิตสูง เอาตัวรอด และแทรกซึมไปได้ทุกที่ได้ง่ายกว่า ซึ่งพวกรายเล็กรายน้อยนั้นชอบเหลือเกิน เช่นเคยไทยยังไม่ค่อยมีคนประเภทนี้ เราคงต้องอิมพอร์ตคนจากจีนเป็นหลัก

แรงงานชั้นสูงที่รองรับการส่งเสริมการลงทุนครั้งนี้ หากต้องการสร้างคนในประเทศรองรับได้จริง หลักสูตรในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่ผลิตคนได้ 50 คนต่อปีนั้นไม่เพียงพอ การจะเบียดคนจากสายอื่นที่ใกล้เคียงมาใช้งานก็จะส่งผลกระทบในวงกว้าง แน่นอนด้วยเหตุผลที่คนไม่พอก็ต้องไปเสียเงินจ้างจากนอกประเทศนั่นเอง

ตัวเลขส่งเสริมการลงทุนเอไอดาต้าเซ็นเตอร์แม้จะดูสวยงาม แต่เบื้องหลังเกี่ยวพัน และส่งผลกระทบในวงกว้าง เลยอยากให้คนไทยมองเห็นแง่มุมเหล่านี้แต่เนิ่นๆ เพื่อรับมือ

Related Articles