ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทอย่างมากในหลากหลายอุตสาหกรรม หนึ่งในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคืออุตสาหกรรมประกันภัย ซึ่งกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านการฉ้อโกงและความไร้ประสิทธิภาพในการจัดการค่าสินไหมทดแทน
IFFCO Tokio กับการใช้ AI เพื่อตรวจจับการฉ้อโกง
บริษัทประกันภัยในอินเดีย IFFCO Tokio General Insurance ได้เปิดเผยว่าพวกเขาใช้ซอฟต์แวร์ AI เพื่อตรวจจับและยับยั้งการฉ้อโกงในกระบวนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้โครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า “Modicare” หรือที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการว่า Pradhan Mantri Jan Arogya Yojana (PMJAY)
เทคโนโลยีที่ใช้ช่วยให้ทีมแพทย์สามารถวิเคราะห์คำร้องขอสินไหมได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น ตัวอย่างหนึ่งที่ถูกตรวจพบคือการใช้ภาพถ่ายซ้ำกันในการยื่นคำร้องจากโรงพยาบาลหลายแห่ง โดย AI สามารถระบุความผิดปกติได้ถึง 100,000 ภาพในช่วงแรกของการใช้งาน ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถป้องกันการจ่ายค่าสินไหมที่ไม่ถูกต้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Pain Points ของ IFFCO Tokio
แม้ว่า AI จะช่วยให้ IFFCO Tokio ลดการฉ้อโกงได้อย่างมาก แต่บริษัทก็ยังต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายประการ เช่น:
- ปริมาณข้อมูลจำนวนมหาศาล: บริษัทต้องประมวลผลคำร้องขอสินไหมกว่า 1,200 รายการต่อวัน ทำให้ทีมแพทย์มีภาระหนัก และ AI ต้องถูกปรับแต่งอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถคัดกรองข้อมูลได้อย่างแม่นยำ
- การจัดการข้อมูลย้อนหลัง: แม้ AI จะช่วยให้ตรวจจับการฉ้อโกงได้ แต่การตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังเป็นเรื่องยาก เนื่องจากแพทย์ไม่มีเวลาตรวจสอบเอกสารที่ได้รับการจ่ายเงินไปแล้ว
- การบูรณาการ AI กับระบบงานเดิม: ระบบ AI จำเป็นต้องทำงานร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานเดิมของบริษัท ซึ่งต้องใช้เวลาปรับปรุงและแก้ไขเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ความแม่นยำของโมเดล AI: การพัฒนาโมเดล AI ที่สามารถตรวจจับการฉ้อโกงได้อย่างแม่นยำเป็นความท้าทาย เพราะต้องใช้ข้อมูลคุณภาพสูงและการปรับแต่งโมเดลอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มและโอกาสของ AI ในธุรกิจประกันภัยไทย
สถานการณ์ดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากอุตสาหกรรมประกันภัยในประเทศก็กำลังเผชิญกับปัญหาการฉ้อโกงที่คล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะในส่วนของประกันสุขภาพและประกันภัยรถยนต์
ในประเทศไทย หลายบริษัทเริ่มนำ AI และ Machine Learning เข้ามาใช้เพื่อลดความซับซ้อนของกระบวนการพิจารณาค่าสินไหม เช่น การใช้ AI วิเคราะห์ภาพถ่ายอุบัติเหตุเพื่อประเมินความเสียหายของรถยนต์ และการนำเทคโนโลยี Optical Character Recognition (OCR) มาใช้เพื่ออ่านใบแจ้งหนี้จากอู่ซ่อมรถเพื่อลดข้อผิดพลาดในการตรวจสอบเอกสาร
ปัญหาการโกงในโครงการประกันสุขภาพของไทย
โครงการประกันสุขภาพของไทย เช่น ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) และประกันสังคม ก็มักประสบปัญหาการฉ้อโกงเช่นเดียวกัน มีกรณีที่โรงพยาบาลหรือคลินิกเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลเกินจริง หรือแม้แต่ลงทะเบียนผู้ป่วยปลอมเพื่อเบิกค่ารักษา บางกรณีมีการสวมสิทธิ์ใช้บัตรประชาชนของผู้อื่นในการรักษา ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายทางการเงินจำนวนมหาศาลต่อระบบสาธารณสุขของไทย
AI อาจเข้ามามีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้ เช่น การใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติของสถานพยาบาล การใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าเพื่อตรวจสอบตัวตนของผู้เข้ารับการรักษา และการวิเคราะห์แนวโน้มการเบิกจ่ายค่ารักษาเพื่อหาความผิดปกติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและลดการรั่วไหลของงบประมาณภาครัฐ
ความท้าทายและอนาคตของ AI ในประกันภัยไทย
แม้ว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการฉ้อโกงได้อย่างมาก แต่ยังคงมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ เช่น ความแม่นยำของโมเดล AI ที่ต้องมีข้อมูลที่เพียงพอในการฝึกระบบ การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า และความจำเป็นในการพัฒนากฎหมายและข้อบังคับให้รองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ
อย่างไรก็ตาม เทรนด์การใช้ AI ในธุรกิจประกันภัยไทยกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมในอนาคต หากมีการวางโครงสร้างการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม AI อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ระบบประกันภัยไทยมีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อบริษัทประกันภัยและผู้บริโภคในระยะยาว