ทำไมโลกยานยนต์ ยกให้เครื่องยนต์ไฮโดรเจนรุ่น 2 ของ Toyota เป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่

Hydrogen Combustion Engine เทคโนโลยีรุ่น 2 ที่ Toyota นั้นหมายมั่นปั้นมือในการเอามาสู้กับกระแสรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งหมดคือ 10 คำตอบว่าใช่หรือไม่
Share

 

พบกับ 10 คำตอบ ที่นำไปสู่การกล่าวขานว่า Hydrogen Combustion Engine ของ Toyota รุ่นที่ 2 นั้นมีศักยภาพถึงขั้นปฏิวัติวงการ ให้สมรรถนะการทำงานสูง แต่ปล่อยมลพิษต่ำ

 

ในขณะที่โลกหมุนไปสู่ทางเลือกที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์ต่างเร่งค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไปพร้อมกับปรับปรุงประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ซึ่ง Toyota ถือเป็นเป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตยานยนต์ที่นำหน้าด้านการพัฒนารถยนต์เชื้อเพลิงทางเลือกมายาวนาน และนวัตกรรมล่าสุดคือเครื่องยนต์สันดาปไฮโดรเจนที่มีแนวโน้มว่าอาจกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า Game Changer ได้

คาดกันว่าเครื่องยนต์สันดาปไฮโดรเจนจาก Toyota น่าจะให้กำลังที่เพิ่มขึ้น ในระยะทางที่ไกลขึ้น และใช้เวลาในการเติมเชื้อเพลิงเร็วกว่าเครื่องยนต์เบนซินทั่วไป นอกจากนั้นสิ่งตกค้างเพียงอย่างเดียวที่รถยนต์พลังงานพลังงานไฮโดรเจนจะปล่อยออกมาก็เป็นเพียง ไอน้ำ เท่านั้น นับว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินทั่วไป ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ ส่งด้วยแนวคิดการออกแบบ ที่ช่วยให้ตัวรถเบามากขึ้น ทำให้เกิดสมรรนะที่ดียิ่งขึ้นในภาพรวม

และเมื่อเทคโนโลยียังคงพัฒนาต่อไป ต้นทุนในการผลิตไฮโดรเจนก็จะเริ่มลดลงจนอยู่ในระดับที่เหมาะสม ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นในระยะยาว เครื่องยนต์พลังงานไฮโดรเจนของ Toyota ถือเป็นการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นและแปลกใหม่สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่นำเสนอความเป็นไปได้มากมายแก่ผู้บริโภค อีกทั้งช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมของเราด้วย และนี่คือ 10 คำตอบที่ทำให้เครื่องยนต์ไฮโดรเจนของ Toyota เข้ามาปฏิวัติ เรื่องประสิทธิภาพการทำงาน อีกทั้งสะท้อนให้เห็นภาพการคมนาคมอันยั่งยืนในอนาคต

  1. ให้พละกำลังที่มากกว่า

เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้น้ำมันเบนซินแล้ว หากพูดถึงพละกำลังแล้วละก็ เครื่องยนต์ที่ใช้ไฮโดรเจนนั้นให้ศักยภาพเรื่องนี้มากกว่า เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ขนาดเดียวกัน เพราะกุญแจสำคัญคือ การเผาไหม้ไฮโดรเจนนั้นทำได้ดีกว่าการใช้น้ำมัน ซึ่งนั่นก็หมายถึงสามารถสร้างพลังงานได้มากกว่า นอกจากนั้นเครื่องยนต์แบบไฮโดรเจนยังออกแบบให้มีอัตราส่วนการอัดที่สูงกว่าเครื่องยนต์เบนซินทั่วไป จึงสร้างแรงบิดได้ดีกว่านั่นเอง ทำให้เกิดอัตราเร่งที่ดี ให้ความเร็วมากขึ้น ควบคุมได้ดีขึ้น เรียกว่าให้สมรรถนะรอบด้านทีเดียว

  1. มลพิษต่ำ

ความได้เปรียบสำคัญของเครื่องยนต์สันดาปไฮโดรเจน คือการปล่อยมลพิษที่น้อยกว่า เพราะสิ่งที่หลงเหลืออยู่ เป็นเพียงละอองน้ำบริสุทธิ์เท่านั้น เทียบกับสิ่งที่ออกจากเครื่องยนต์สันดาปที่ใช้น้ำมันแบบเดิม ที่แม้จะมีละอองน้ำเช่นเดียวกันแต่นั่นไม่ใช่สสารเพียงชนิดเดียว เพราะมันมาพร้อมก๊าซพิษต่างๆ ที่นอกจากจะทำอันตรายแก่มนุษย์ที่สูดดมเข้าไปแล้ว ยังเป็นตัวการสร้างสภาวะเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศอีกด้วย

นอกจากนี้ เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนนั้นยังใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเมื่อสร้างความร้อนน้อย ใช้ชิ้นส่วนน้อย ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวน้อยลง ทำให้มลภาวะด้านต่างๆ น้อยลงตามไปด้วย ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคและรัฐบาลที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

  1. เดินทางได้ไกลกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันหรือไฟฟ้า

จุดเด่นอย่างหนึ่งของเครื่องยนต์ไฮโดรเจนรุ่น 2 ของ Toyota คือการเพิ่มระยะวิ่งได้ไกลกว่า เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนสามารถเดินทางได้ไกลขึ้นโดยไม่ต้องแวะเติมเชื้อเพลิงใหม่ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกล เพราะไม่ต้องคอยกังวลเรื่องการหาสถานีชาร์จ ตัวอย่างเช่น Toyota Mirai สามารถวิ่งได้ไกลถึง 402 ไมล์ (ประมาณ 640 กิโลเมตร) ด้วยไฮโดเจนหนึ่งถัง ซึ่งต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าที่ส่วนใหญ่นั้นเดินทางได้ไม่เกิน 300 ไมล์ (ไม่เกิน 500 กิโลเมตร) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง จึงทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดใจ

  1. เติมเชื้อเพลิงเร็วกว่า เมื่อเทียบกับชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้า

ข้อได้เปรียบที่สำคัญประการหนึ่งของรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปพลังงานไฮโดรเจนคือสามารถเติมเชื้อเพลิงได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ซึ่งเร็วกว่าการชาร์จแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งขั้นตอนในการเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนนั้นก็ไม่ได้ต่างจากการเติมน้ำมัน ซึ่งการเติมเชื้อเพลิงได้รวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเดินทางไกล

  1. ขนาดของเครื่องยนต์ที่เบากว่า

เมื่อเทียบกันแล้ว เครื่องยนต์สันดาปด้วยเชื้อเพลิงไฮโดรเจนนั้นมีน้ำหนักที่เบากว่าเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่และควบคุมรถได้ดีขึ้น น้ำหนักที่เบาขึ้นเพราะชิ้นส่วนในเครื่องยนต์น้อยลง และไม่ต้องอาศัยระบบทดกำลังหรือท่อไอเสียมาต่อเข้ากับระบบ นอกจากนี้ การเผาไหม้ของไฮโดรเจนยังส่งผลให้เกิดของเสียน้อยกว่า จึงไม่มีระบบไอเสียขนาดใหญ่และหนัก เมื่อน้ำหนักเบาขึ้น ก็จะช่วยให้การขับขี่ว่องไวขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  1. คาดว่า รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนของ Toyota จะมีราคาถูกลงในอีกไม่ช้า

ในอดีต ต้นทุนการผลิตไฮโดรเจนคืออุปสรรคขัดขวางการใช้งานแพร่หลาย แต่เมื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้รับการยอมรับมากขึ้น ก็จะช่วยให้ต้นทุนการผลิตไฮโดรเจนถูกลง การลดต้นทุนยังมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการผลิตไฮโดรเจน ขนาดที่เล็กลง และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจการผลิตไฮโดรเจน และเมื่อต้นทุนลดลง ต้นทุนการผลิตก็ลดลงตาม เทียบกับรถไฟฟ้า ที่ราคาแบตเตอรี่ยังแพงอยู่ แถมติดปัญหาเรื่องโครงสร้างระบบสถานีชาร์จไฟ ซึ่งปัจจัยนี้สิ่งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในตลาด เอื้อต่อยานยนต์ที่ใช้ไฮโดรเจนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่เชื้อเพลิงมีราคาสูง

  1. ให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า ในภูมิประเทศความกดอากาศสูง ภูเขา หรือที่ไหนก็ได้บนโลกนี้

รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนมีข้อได้เปรียบที่แตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน คือสามารถทำงานบนระดับความสูงได้ดีกว่า เพราะอากาศบนที่สูงมีความหนาแน่นน้อยกว่า อาจส่งผลต่อสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซินที่อาศัยออกซิเจนในการเผาไหม้เชื้อเพลิง เครื่องยนต์สันดาปด้วยเชื้อเพลิงไฮโดรเจนไม่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนในการเผาไหม้ ปฏิกิริยาเคมีจะผลิตไอน้ำและไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าของรถแทน ทำให้ได้ระดับประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอในทุกสภาพพื้นที่ จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ขับขี่ที่อาศัยหรือเดินทางในพื้นที่ภูเขา อีกอย่างด้วยขนาดที่เบากว่าทำให้ไม่ต้องแบกน้ำหนักตัวเพื่อเค้นสมรรถนะออกมามากเกินเพื่อชดเชยกับน้ำหนักของตัวเครื่องยนต์

  1. ให้การขับขี่ที่เงียบกว่า

อีกหนึ่งความได้เปรียบคือ เครื่องยนต์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนจาก Toyota จะเดินเครื่องได้เงียบกว่าเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน นี่เป็นเพราะกระบวนการเผาไหม้ของไฮโดรเจนนั้นราบรื่นกว่ามากและทำให้เกิดการสั่นสะเทือนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์แบบดั้งเดิมบวกเข้ากับการใช้มอเตอร์เป็นตัวขับเคลื่อนยิ่งทำให้เกิดเสียงที่เบากว่า ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีทั้งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และไม่รบกวนผู้คนที่อยู่ในสภาพแวดล้อม

  1. ให้ผลกระทบด้านเศรษฐศาสตร์มากกว่าเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน

สิ่งที่ดูเหมือนเป็นจุดที่เด่นที่สุดของเครื่องยนต์สันดาปเชื้อเพลิงไฮโดรเจนของ Toyota ก็คือ ประสิทธิภาพที่เพิ่มและดีขึ้น เนื่องจากไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงที่มีพลังงานหนาแน่นมากกว่าน้ำมันเบนซิน จึงสามารถดึงพลังงานได้มากขึ้นโดยใช้เชื้อเพลิงในปริมาณน้อยกว่า นอกจากนี้ เครื่องยนต์ไฮโดรเจนยังสามารถทำงานได้ในอุณหภูมิที่สูงกว่า จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ได้มากขึ้น

  1. เครื่องยนต์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ช่วยต่อลมหายใจให้กับเครื่องยนต์สันดาปได้อีกวาระ

การใช้ไฮโดรเจนเป็นแหล่งเชื้อเพลิงในการขนส่งเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีจำกัดและปล่อยมลพิษเมื่อเผาไหม้ ในทางกลับกัน ไฮโดรเจนสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้และสร้างขึ้นได้หลายวิธี จากแหล่งพลังงานสะอาด เช่น ลมและแสงอาทิตย์ การผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจนก่อให้เกิดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์เมื่อใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน จึงเป็นทางเลือกที่ให้ความยั่งยืนมากขึ้นสำหรับการขนส่ง ช่วยลดการพึ่งพาน้ำมันจากต่างประเทศ อีกทั้งไฮโดรเจนยังสามารถผลิตได้ในประเทศ ซึ่งการสร้างสถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเพิ่มขึ้น ยังนับเป็นขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการขยายตัวในการใช้งาน ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

 

แม้ว่าในตอนนี้ Toyota ได้ผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ไฮโดรเจนรุ่นที่ 2 ออกมาเพียงรุ่นเดียวคือ Toyota Corolla Cross Hydrogen และสำหรับตลาดประเทศไทย ก็ยังคงต้องรอความชัดเจนมากกว่านี้ เพราะปัจจุบันเรามีเพียงปั๊มเติมเพียงแห่งเดียว แถม Toyota Mirai ก็ยังไม่ได้มีการประกาศราคา แต่อย่างน้อย ก็อาจจะยังมั่นใจได้ว่า Toyota จะยอมทำตลาดรถยนต์ไฮโดรเจนนอกญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งก็ไม่แน่ว่า เราอาจจะได้เห็นการเปิดตลาดด้วย Hilux Revo Hydrogen ก็เป็นได้ งานนี้ต้องติดตามกันต่อไป

innomatter

innomatter

ข่าวไอที นวัตกรรม พลังงาน และความยั่งยืน

Related Articles