อุตสาหกรรมเครื่องดื่มโลกจับเทรนด์สุขภาพ ชี้ไทย-อาเซียน รับอานิสงค์ผลิตเครื่องดื่มสุขภาพรสชาติใหม่ตีตลาดโลก

Share

 

 

อุตสาหกรรมเครื่องดื่มโลกโตแตะ 276.44 พันล้านดอลลาร์ เผยเทรนด์เครื่องดื่มสุขภาพจากธรรมชาติและรสชาติแปลกใหม่มาแรง ด้านไทย-อาเซียน รับอานิสงค์ใช้จุดแข็งด้านวัตถุดิบที่หลากหลายและมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ผสานความคิดสร้างสรรค์สร้างเครื่องดื่มใหม่บุกตลาดโลก ด้าน อินฟอร์มา เผย ProPak Asia 2025ดึงบริษัทชั้นนำร่วมจัด ยกเทคโนโลยีนวัตกรรมการผลิตและแปรรูปล่าสุดจัดแสดง พร้อมเปิดเวที Beverage Executive Talk แลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในหลายหัวข้อสำคัญ

นางสาวกชสร โตเจริญธนาผล รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงาน ProPak Asia 2025 กล่าวถึงการเติบโตและแนวโน้มของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มว่า อุตสาหกรรมเครื่องดื่มโลกยังเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งปี 2568 คาดว่าตลาดเครื่องดื่มโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 276.44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 8.30% ตั้งแต่ปี 2568 ถึง 2572 โดยเทรนด์เครื่องดื่มที่เติบโตอย่างน่าสนใจ คือ กลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากวัตถุดิบธรรมชาติ (Natural Functional Drink) อาทิ เครื่องดื่มบำรุงสมองและระบบประสาทที่มีส่วนผสมของ Huperzine A สารสกัดจากพืช น้ำอัดลมพรีไบโอติกส์ (prebiotic sodas) และ โพรไบโอติกส์ (Probiotics) ที่มีสารอาหารบำรุงกระเพาะอาหาร น้ำอัดลมรสผลไม้หรือเครื่องดื่มจากผลไม้แปรรูป เครื่องดื่มนมพืชหรือจากถั่วเหลือง และ กลุ่มเครื่องดื่มที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิต อาทิ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสมุนไพรหรือสารสกัดจากธรรมชาติช่วยลดความเครียด เครื่องดื่มทดแทนแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจากพืช เครื่องดื่มที่ใช้นวัตกรรมในการสร้างรสชาติใหม่

ส่วนทิศทางอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยนั้น เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มโลก พร้อมได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว สภาพอากาศที่ร้อนขึ้น การขยายตัวและการเติบโตของเมือง ร้านสะดวกซื้อและออนไลน์ รวมถึงการพัฒนาสินค้าที่หลากหลายในกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่เน้นสุขภาพ จากข้อมูลดังกล่าวเห็นได้ว่าตลาดเครื่องดื่มยังมีช่องว่างอยู่มากสำหรับผู้ประกอบการไทยและอาเซียน ซึ่งมีข้อได้เปรียบทั้งด้านวัตถุดิบธรรมชาติที่หลากหลาย มีคุณภาพและสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ให้รสชาติแปลกใหม่ ด้วยการผลิตที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทั้งการใช้ Internet of Things (IoT) Automation และ AI 

ดังนั้นการจัดงาน ProPak Asia 2025 จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของภูมิภาค ซึ่งในงานมีการนำเสนอทั้งเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตเครื่องดื่ม รวมถึงการบรรจุภัณฑ์จากบริษัทชั้นนำของโลก เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปปรับใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ รวมถึงยังเป็นเวทีแห่งโอกาสในการสร้างเครือข่ายธุรกิจและเข้าถึงตลาดโลกในการพบปะกับผู้ร่วมงานจากนานาชาติ พร้อมกันนั้นยังได้รับความรู้ รับทราบถึงเทรนด์ของอุตสาหกรรมใน Beverage Executive Talk ที่เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในหลายหัวข้อสำคัญ อาทิ ทิศทางของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในอนาคต การขยายตลาดและโอกาสในอาเซียน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ฯลฯ จึงไม่อยากให้ผู้ประกอบการและผู้สนใจในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มพลาดในการร่วมงานฯ ครั้งนี้

นายภาคภูมิ ประพรม ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ซีเดล เซ้าท์ เอเชีย-แปซิฟิค ผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันบรรจุภัณฑ์ระดับโลก กล่าวว่า ไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นฐานการผลิตสำคัญของอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ซึ่ง Sidel มีส่วนร่วมในการสนับสนุนในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การรักษามาตรฐานคุณภาพและส่งเสริมให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยตลอด 47 ปี ซึ่งมีการพัฒนาและติดตั้งระบบปลอดเชื้อไปแล้วกว่า 300 ระบบทั่วโลก รวมถึงโซลูชันที่ได้รับการรับรองจาก FDA กว่า 30 รายการ 

สำหรับการร่วมงานกับ ProPak Asia 2025 นั้น นับเป็นโอกาสที่ดีในการเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมตัวจริง โดยทางบริษัทฯ เตรียมการจัดแสดงและนำเสนอโซลูชันที่ล้ำสมัยล่าสุด อาทิ Aseptic Combi Predis™ ซึ่งเป็นโซลูชันการบรรจุแบบ Blow-Fill-Cap สำหรับขวด PET โดยมีการสเตอริไลซ์พรีฟอร์มแบบแห้ง Predis™ ซึ่งระบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่ต่อเนื่อง ทำให้การบรรจุเครื่องดื่มที่ไวต่อการปนเปื้อนมีความปลอดภัย รักษาคุณภาพ รสชาติและยืดอายุการเก็บได้นาน ทั้งยังเป็นระบบที่ลดการใช้น้ำและสารเคมีจึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดง IntelliADJUST™ ซึ่งเป็นระบบควบคุมคุณภาพอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความสม่ำเสมอของขวดPET และสนับสนุนการใช้ rPET ซึ่งเป็นขวด PET ที่ผลิตจากวัตถุดิบซึ่งผ่านกระบวนการรีไซเคิลแล้วนำกลับมาใช้ใหม่  รวมถึง Evo-ON® cloud suite ที่ทำหน้าที่ดูแลสายการผลิตตลอด 24 ชั่วโมง และการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน 

นายเรจิส แอร์เว่ หัวหน้าฝ่ายขายเครื่องจักรใหม่ประจำประเทศไทย บริษัท โครเนส (ประเทศไทย) กล่าวถึงการร่วมแสดงงานกับ ProPak Asia 2025 ว่า Kronesเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์และเครื่องดื่ม  ซึ่งให้บริการทั้งด้านการวางแผน การพัฒนา ผลิตเครื่องจักรและสายการผลิตครบวงจร สำหรับกระบวนการผลิต การบรรจุ และเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ รวมถึงโซลูชันด้านดิจิทัล ระบบโลจิสติกส์ภายในองค์กร และการรีไซเคิลพลาสติก ซึ่งการร่วมงานกับ ProPak Asia 2025 นับว่าเป็นอีกครั้งสำคัญ ที่จะได้นำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่น่าสนใจ และยังเป็นการเชื่อมต่อความสัมพันธ์ รับฟังความคิดเห็นแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ประกอบการชั้นนำในอุตสาหกรรมทั่วทั้งภูมิภาค เพื่อร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องดื่มให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนอีกด้วย

 

Related Articles